zootopia (fic NickxJudy) แครอททอด
แฟนฟิคน่ารักๆ เรื่องราวระหว่างนิคจิ้งจอกหนุ่มและจูดี้กระต่ายสาว เมื่อทั้งคู่กลายมาเป็นคู่หูกันเต็มตัว (short fic)
ผู้เข้าชมรวม
1,741
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
ณ กรมตำรวจแห่งซูโทเปีย
เสียงนาฬิกาตีบอกเวลาเลิกงาน
กระต่ายสาวที่กำลังกระวีกระวาดกับการเก็บของอยู่ก็ต้องชะงักลงเมื่อหันไปเจอกับข้อความที่เขียนด้วยลายมือของตนเองอย่างบรรจงบนปฏิธินตั้งโต๊ะ..
จูดี้ ฮอปส์ มองมันพลางเคาะนิ้วอย่างอารมณ์ดี
วันนี้ก็ครบรอบหนึ่งปีแล้วสินะ หลังจากที่เธอและ นิค
ไวลด์ จิ้งจอกหนุ่มขนแดงได้ตกลงจะร่วมมือกันในการสืบคดีสัตว์หาย
หากวันนั้นเธอไม่ได้เจอเขาที่ร้านขายไอศกรีม ไม่ได้โดนเขาหลอกต้มสะเปื่อย
และไม่ได้พกปากกาทรงแครอทจิ๋วที่มีเครื่องบันทึกเสียงในตัวติดไปด้วย
ก็คงจะไม่มีวันนี้ วันที่เธอและเขาเป็นคู่หูกันมาร่วมหนึ่งปี
ปั่ก
“โอ้ย”
กระต่ายสาวในชุดเครื่องแบบสะดุ้งโหยง
วัตถุทรงกลมสีขาวคล้ายกับก้อนกระดาษ
ซึ่งหากดูจากเนื้อหาบนแผ่นที่ถูกขยำจนยับยู้ยี่แถมยังมีรอยเปื้อนสีน้ำตาลเข้มแล้ว
มันค่อนข้างคล้ายกับรายงานการประชุมที่เธอเพิ่งพิมพ์เพื่อเตรียมส่งให้สารวัตรโบโก้ได้ตรวจสอบไปเมื่อสักครู่
หากแต่ว่ามันควรจะอยู่บนโต๊ะของสารวัตร ไม่ใช่บนหน้าผากเธอดังเช่นเมื่อสักครู่
ซึ่งมันคงจะเป็นฝีมือของใครไปไม่ได้เลย นอกเสียจาก
“เฮ้ แครอท”
น้ำเสียงทะเล้นดังออกมาจากปากของหมาจิ้งจอกขนแดงตรงหน้า ก่อนที่จะถูกแทนที่ด้วยเสียง
“โอ้ย เจ็บนะแครอ.. โอ้ย พอแล้วๆ”
“ทำไมรายงานที่ฉันเพิ่งส่งสารวัตรไปถึงมาอยู่ตรงนี้” จูดี้
ฮอปส์ ขมวดคิ้วแน่นพลางเท้าเอวและชี้นิ้วไปที่ก้อนกลมๆซึ่งบัดนี้มันกำลังกลิ้งอยู่บนพื้น
“ไม่รู้สิ” นิค
ไวลด์ แสร้งตีหน้าซื่อ “บางที.. มันอาจจะบินออกมา เห้! นึกออกแล้ว! บางทีตอนที่ทุกคนเผลอมันต้องแอบใช้ขาที่ซ่อนไว้เดินออกมาแน่เลย
เพราะความจริงแล้วมันคือเอเลี่ยน ยังไงละ!”
“นายคิดว่าฉันจะเชื่อเรื่องหลอกเด็กอย่างงั้นหรอ” จูดี้กลอกตา
“ไม่เอาน่าแครอท ที่นี่คือซูโทเปียนะ! ไม่ว่าใครจะอยากเป็นอะไร
ก็สามารถเป็นได้ที่นี่! ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังพลางทำหน้าล้อเลียนเจ้าของประโยคที่เคยพูดวลีนี้ไว้เมื่อนานมาแล้ว..
เอาจริงๆเมื่อสองสามวันก่อนเธอก็เพิ่งพูดไปตอนที่ปลอบใจ
สกังก์ตัวน้อยที่ใฝ่ฝันว่าโตไปจะเปิดแบรนด์น้ำหอมเป็นของตัวเอง
แต่กลับโดนเพื่อนร่วมห้องหัวเราะเยาะ เลยเกิดอาการคุ้มคลั่งนิดหน่อย..
ก็แค่ไฟไหม้ชั้นเรียนไปครึ่งชั้นเอง
“นายนี่มัน..” กระต่ายตัวเล็กเลือกที่จะไม่พูดอะไรต่อ
นี่ไม่ใช่เวลาที่เธอจะมานั่งเถียงกับเขาเรื่องที่กระดาษมีขาได้หรือไม่
เข็มนาฬิกาชี้เวลาบอกว่าตอนนี้หกโมงกว่าๆแล้ว
และรายงานการประชุมเองก็ยังไม่ส่ง
ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือเธอส่งมันแล้วแต่มันไม่ถึงของสารวัตรต่างหาก
และที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือไฟล์ที่เธอเซฟไว้ก็ถูกพ่อจิ้งจอกตัวดีลบไปซะเกลี้ยงในตอนบ่าย
ด้วยเหตุที่ว่า นิคต้องการจะเก็บเมมบนเครื่องไว้โหลดหนังมาดูในยามว่าง
“นิค ไวลด์”
เธอเรียกเขาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“นายจะต้องนั่งพิมพ์รายงานการประชุมแผ่นใหม่ให้เสร็จภายในวันนี้ เข้าใจมั้ย!”
“ใจเย็นก่อน” เขากระตุกยิ้มที่มุมปาก พลางนั่งลงบนโต๊ะทำงานของสิ่งมีชีวิตที่ตัวเล็กกว่าอย่างถือวิสาสะ
ขาวยาวยกขึ้นมาไขว้กัน แว่นตาสีดำสนิทถูกหยิบออกมาใส่บนใบหน้าอีกครั้งแม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลาที่แสงดวงอาทิตย์เริ่มเลือนรางจนแทบไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้แล้วก็ตาม
“ฉันให้นายเลือกสองอย่าง” ร่างเล็กที่นั่งอยู่บนเก้าอี้พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเรียบ
“ถ้าเธอหมายถึงเงินโบนัสกับเงินของกลางที่เราพึ่งยึดมาเมื่อวานละก็
ฉันจะขอเลือกทั้งสองอย่าง” เขายิ้มอย่างยียวน
‘ตึ่ง ตึ่ง คุณแน่ใจหรือว่าจะลบไฟล์ทั้งหมดนี้
ตึ่ง ตึ่ง ’
เสียงการแจ้งเตือนดังขึ้นมาจากคอมพิวเตอร์ที่อยู่ด้านหลังของเขา
“แครอท..” เสียงของนิคดูเหมือนจะแหบลงไปชั่วขณะ
“ฉัน..คิดว่านั่นอาจจะไม่ใช่วิธีที่ดีสักเท่าไหร่..นะ”
‘ตึ่ง ตึ่ง ยืนยันการลบสิบไฟล์จากสามร้อยสี่สิบเอ็ดไฟล์
ตึ่ง ตึ่ง ’
เสียงการแจ้งเตือนดังขึ้นอีกครั้ง
“แครอทททท หนังพวกนั้นมันไม่มีให้โหลดฟรีแล้วนะ โถ่”
ท่าทางของคนตรงหน้าเธอเริ่มจะกระวนกระวายมากขึ้น
ซึ่งจูดี้เองก็ยอมรับว่ามันเป็นปฏิกิริยาที่เธอต้องการจะเห็นจากเขามากที่สุดในเวลานี้
นิค
ไวลด์ ลุกขึ้นจากโต๊ะและเดินไปหยิบกระดาษรายงานแผ่นแรกที่ถูกขยำมาคลี่ให้เธอดู
ตรงท้ายของแผ่นมีลายเซ็นสีแดงและตราประทับของหัวหน้าเซ็นรับรองแล้ว
“ถึงฉันจะเป็นกระต่ายโง่
แต่ฉันก็พอจะคำนวณได้นะว่ามันไม่คุ้มเลยกับการที่นายแกล้งหลอกฉันเรื่องกระดาษ
รายงาน กับการที่โดนลบไฟล์หนังซึ่งนายไม่สามารถโหลดใหม่ได้แล้วตั้งสิบไฟล์”
จูดี้กระตุกยิ้มมุมปากอย่างอารมณ์ดี แม้ว่าลึกๆแล้วเธอจะเคืองเล็กน้อย
ที่ตนโดนปั่นหัวให้วิตกกังวล แต่มันก็ถือว่าสาสมแล้วกับผลที่เขาได้รับ
“กระต่ายโง่”
นิค ถอดแว่นตาแล้วมองคนตรงหน้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเอ็นดู “จากการคำนวณของฉันไฟล์หนังสิบไฟล์จากสามร้อยสี่สิบเอ็ดไฟล์ที่ฉันเซฟมาแบบไม่ต้องเสียตังค์หน่ะ...
ก็ไม่ได้ถือว่ามากมายนักหรอกนะเมื่อเทียบกับ.. ”
เสียงของเขาแผ่วเบาลงในช่วงหลัง
หรืออาจะเป็นเพราะแอร์ตัวเก่าที่กำลังจะเสียส่งเสียงโอดครวญออกมาดังเกินไปก็เป็นได้
จิ้งจอกหนุ่มเดินออกจากออฟฟิศไปโดยไม่ลืมที่จะโบกมือบ๊ายบายให้กับคู่หูตัวเล็กที่กำลังแปลกใจว่าทำไมเขาจึงไม่รู้สึกเสียดายไฟล์หนัง
จูดี้
ฮอปส์ ใช้เวลาราว5นาทีในการปิดคอมพิวเตอร์และ
เก็บของทุกอย่างที่กระจัดกระจายให้เข้าที่เพื่อกลับบ้าน ตามจริงเธอควรจะเรียกมันว่าห้องพักขนาดรูหนูเสียสะมากกว่า
ทันทีที่เธอเปิดประตูสำนักงานออกมา
กระต่ายสาวได้กลิ่นแครอทโชยมาตามสายลม
และฮิปโปตัวโตในชุดพนักงานส่งพิซซ่าที่เดินตรงเข้ามาพร้อมกับพิซซ่าถาดใหญ่
“คุณคือจูดี้ ฮอปส์
กระต่ายหญิงเพียงคนเดียวแห่งซูโทเปียที่เป็นตำรวจ ผู้มีความเชื่อว่าซูโทเปียคือดินแดนที่ไม่ว่าใครจะอยากเป็นอะไร
ก็สามารถเป็นได้ที่นี่ ใช่หรือไม่ขอรับ ”
“เอ่อ.. ฉันคิดว่าน่าจะใช่นะ..”
เธอตอบพลางเอามือเกาต้นคอ “ความจริง.. คุณไม่ต้องระบุตัวตนของฉันชัดเจนขนาดนั้นก็ได้นะ...
แหะๆ”
“ขอโทษด้วยครับ
พอดีว่าลูกค้าของเรากำชับมาว่าให้พูดตามข้อความที่เขาระบุมาให้ครบทุกคำนะขอรับ”
คุณฮิปโปตอบกลับก่อนที่จะยื่นกล่องพิซซ่ารูปทรงแปดเหลี่ยมให้จูดี้
ลูกค้า...
งั้นหรอ ?
“อะแฮ่ม”
คุณฮิปโปกระแอมไอหนึ่งครั้ง ก่อนที่จะหยิบกระดาษสีน้ำตาลแผ่นหนึ่งขึ้นมาแล้วอ่านเนื้อความข้างใน
“ขอมอบพิซซ่าถาดนี้แด่ จูดี้ ฮอปส์
ตำรวจหญิงผู้มีความเชื่อแน่วแน่ว่าจะทำให้โลกน่าอยู่ขึ้น
ขอบคุณสำหรับหนึ่งปีที่ผ่านมา ขอบคุณที่เข้ามาเปลี่ยนชีวิตฉัน
ฉันคงจะเสียใจมากถ้าวันนี้เมื่อปีที่แล้วฉันไม่ได้ต้มตุ๋นเธอ จาก นิค”
จู้ดี้
ยิ้มกว้างพลางก้มลงมองพิซซ่าหน้าแครอททอด
เธอจำได้ว่าเมื่อสองสัปดาห์ก่อนเธอเคยบ่นให้เขาฟังว่ามันดูน่ากินมากๆโดยเฉพาะในตอนกลางคืน
เวลาที่แสงจันทร์ส่งลงมาบนเนื้อแครอททอดมันจะเป็นประกายวิบวับน่าทานราวกับว่ากำลังถูกทอดอยู่บนกระทะ
“เอ่อ
คุณผู้หญิงครับ” เสียงเรียกจากฮิปโปตรงหน้าทำให้เธอหลุดจากภวังค์
“ทางเราต้องขอโทษด้วยนะครับที่มาส่งช้า ตอนแรกผมก็เกือบจะมาทันเวลาหกโมงแล้วครับ
แต่พอดีเจ้าบู้บู้..” เขาพูดพลางหันไปทางมอเตอร์ไซด์สีแดงซีดตัวเก่าที่จอดอยู่ในสภาพที่ใกล้จะแยกชิ้นส่วนเต็มแก่
กระต่ายสาวยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยนและกล่าวขอบคุณ
“ฟู้วว เกือบไม่ทันแล้วสิ”
เจ้าของเสียงลอบถอนหายใจ ก่อนที่จะกระตุกยิ้ม
“ฉันก็บอกนายแล้วไงว่าอย่าสั่งพิซซ่าจากบริษัทนี้
มันห่วยจะตาย ยี๋” ฟินนิคจิ้งจอกเฟนเนกตัวจิ๋ว
อดีตเพื่อนร่วมขบวนการสิบแปดมงกุฎของเขากล่าวเหน็บ
“นอกจากจะรสชาติห่วยแตกแล้วยังจะบริการช้าอีก”
“เอาน่าอย่างน้อยทุกอย่างก็ผ่านไปได้อย่างราบรื่น”
จิ้งจอกหนุ่มปาดหยาดเหงื่อที่ซึมออกมาบริเวณหน้าผาก
นัยน์ตาสีเขียวฉายประกายระยิบระยับสะท้อนแสงจันทร์
“ราบรื่น?
” ฟิคนิคแค่นเสียง “หนังสิบเรื่องถูกลบทิ้งเนี่ยนะราบรื่น!
นั่นมันรายได้ตั้งเท่าไหร่รู้มั้ยฮ่ะ!”
“นั่นนะ..
ฉันคัดลอกไฟล์ทั้งหมดลงในนี่แล้ว” นิค
ชูเครื่องบันทึกข้อมูลขนาดจิ๋วที่เขาแอบฉกมาจากห้องของสารวัตรโบโก้ “สามร้อยสี่สิบเอ็ดไฟล์ครบถ้วนเลยฮะป๋ะป๊า”
เขายิ้มอย่างมีชัย
“ชิ”
ฟิคนิคจิ๊ปาก “วันหลังถ้าจะถ่วงเวลาก็ช่วยทำให้มันรอบคอบกว่านี้หน่อย”
“คร้าบ”
นิคขานรับ “แต่ตอนนี้เราควรรีบไปก่อนที่แครอทจะรู้ว่าเรากำลังแอบมองอยู่นะ”
“หึ..
ก่อนที่แม่สาวนั้น.. จะเห็นสีหน้าของนายตอนนี้นะเหรอ” ฟินนิคกลอกตา
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ chayziw , yakkean ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ chayziw , yakkean
ความคิดเห็น